เคล็ดลับในการเลือก “เป้อุ้มเด็ก” อุปกรณ์ที่จะช่วยเบาแรงคุณพ่อคุณแม่สายสตรอง

ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่หลายท่าน น่าจะเคยประสบกับปัญหาเวลาออกไปข้างนอกบ้านลำพังกับลูก ไม่อยากหิ้วรถเข็นเด็กไปพะรุงพะรัง หรือบางบ้าน ลูกน้อยจะชอบงอแงร้องไห้ ไม่ยอมให้วาง ต้องการให้อุ้มกล่อมเขาอยู่ตลอด ทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดอาการปวดหลัง เอว นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถทำกิจกรรมอย่างอื่น พร้อมกับการดูแลลูกไปพร้อมกันได้ ส่วนใหญ่เป้อุ้มเด็กจะมีลักษณะคล้ายเป้ใส่สัมภาระที่สะพายไว้ด้านหน้า แล้วก็มีช่องให้ลูกน้อยเข้าไปอยู่ พร้อมกับมีสายรัดรอบเพิ่มความปลอดภัย และคล่องตัวเวลาเดิน จึงเป็นที่มาว่าทำไม พ่อแม่ยุคใหม่ในปัจจุบันนี้ จึงต้องมี “เป้อุ้มเด็ก” อุปกรณ์ช่วยชีวิตของคุณพ่อคุณแม่สายสตองทั้งหลาย ให้สามารถอุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมอกได้นานขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเบาแรงคุณพ่อคุณแม่ให้รู้สึกเมื่อยน้อยลงเวลาอุ้มลูกนาน

วิธีเลือกซื้อเป้อุ้มเด็ก

1. เลือกใช้งานตามช่วงอายุของเด็ก

ซึ่งการพัฒนาการทางร่างกายของเด็กแต่ละช่วงอายุวัยไม่เหมือนกันดังนั้นควรเลือกใช้ตามช่วงอายุช่วงอายุ 0-3 เดือน ช่วงนี้ควรจะใช้ เป้อุ้มทารกแรกเกิด หรือ เป้อุ้มทารก 1 เดือน ที่เอวเป็นจุดรับน้ำหนัก อุ้มลูกแบบนอนตะแคง ช่วงนี้คอเด็กยังไม่แข็งแรง ให้ใช้ช่วงแขนประคองลำตัวและคอของลูกไว้ จะเป็นการปลอดภัยและดีต่อเด็กที่สุด

ช่วงอายุ 3-6 เดือน ช่วงคอก็ยังไม่แข็งแรงพอ ให้ใช้ แบบหันหน้าเข้าหาแม่ก่อนไม่ควรที่จะอุ้มลูกแบบหันหน้าออกอย่างเด็ดขาด เพราะช่วงคอยังไม่แข็งแรงพอ

ช่วงอายุ 6-12 เดือน ช่วงนี้คอน้องเริ่มแข็งแรงมากแล้ว เราสามารถใช้เป้อุ้มเด็ก Hip seat โดยจัดท่าให้น้องหันหน้าออกไปด้านหน้าได้แล้ว

ช่วงอายุ 1 ขวบ – 3 ขวบ ช่วงนี้สามารถใช้เป้อุ้มเด็กได้ทักรูปแบบ สะพายหลังก็ได้ สะพายหน้าก็ได้ เช่น กระเป๋าสะพายเด็ก, เป้สะพายเด็ก, กระเป๋า สะพาย ข้าง เด็ก เป็นต้น โดยคุณแม่ก็จะสามารถทำงานไปด้วย อุ้มลูกไปด้วย

2. เลือกเป้เด็กที่คุณพ่อคุณแม่ใช้งานถนัด

ควรเลือกเป้เด็กที่รองรับท่าทางการอุ้มในแบบที่คุณถนัด เนื่องจากส่วนสูงและลักษณะร่างกายของแต่ละคนต่างกัน เป้เด็กส่วนใหญ่จึงปรับขนาดได้เพื่อให้มีขนาดที่เหมาะสมกับผู้อุ้มเด็ก และสามารถถอดออกได้ง่าย

3. เลือกแบบที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น

ควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นตาข่ายเพราะช่วยระบายอากาศได้ดี แถมยังลดปัญหาอบอ้าวและกลิ่นอับอีกด้วยบางรุ่นจะมีเปิดให้ระบายอากาศได้ หรือ บางรุ่นมีแผ่นซัพพอร์ตมาให้เลย หรือถ้าไม่มี คุณแม่อาจจะหาผ้าอ้อมมาพับสอดเสริมให้น้องตรงบริเวณข้างลำตัวหรือลำคอด้วยก็ได้ในกรณีที่ลูกน้อยเล็กมากๆ  ส่วนในเรื่องของพอดีตัวลูกน้อย เป้อุ้มเด็กส่วนใหญ่จะสามารถปรับสายรัดได้ตามขนาดตัวผู้อุ้มและเด็กอยู่แล้ว

4. ความยืนหยุ่น พอดีตัวและสวมใส่สบาย

เป้อุ้มจะต้องปรับสายได้พื้นที่ให้นั่งของลูกต้องกว้างมากพอและต้องพิจารณาว่าเมื่อใช้แล้วรู้สึกพอดีตัว สวมใส่สบายหรือไหม ทั้งคุณแม่และคุณลูก สำหรับคุณลูกต้องดูว่า เป้อุ้มนั้นช่วยให้ลูกน้อยวางขาเป็นรูปตัว M ซึ่งเป็นท่าทางดีต่อสะโพกของลูกน้อยได้อย่างสะดวกหรือไม่ ควรปรับสายศีรษะของลูกนั้นอยู่ในระดับที่สามารถให้ผู้อุ้มเอาหน้าก้มลงหอมหน้าผากของลูกน้อยได้ ควรปรับให้สายให้อยู่ในระดับที่ก้นของลูกอยู่สูงกว่าหรืออยู่ประมาณระดับสะดือของผู้อุ้ม

ส่วนสำหรับคุณพ่อคุณแม่หรือผู้อุ้มก็คือต้องดูที่ความกระชับพอดีกับไหล่ มีแผ่นรอง (Pads) ที่หนาพอดีหรือไม่ ควรได้ลองใช้จริงก่อน เพราะสรีระของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน

5. การถอดเข้า - ออก ใช้งานง่าย

ถ้าเป็นเป้อุ้มเด็กแบบมีเค้าโครงแน่นอนว่าจะสะดวกกับการสวมใส่ แต่สำหรับการเลือกผ้าอุ้มเด็กที่ไม่มีโครง ไม่ว่าจะเป็นแบบมีห่วงหรือไม่ก็ต้องดูว่าตอนใช้งานจริงนั้นสามารถใช้งานง่ายได้แค่ไหน สามารถที่จะพันผ้าออกมาแล้วรองรับท่าอุ้มลูกน้อยได้กี่ท่า อย่าลืมส่องคู่มือการใช้งานก่อนซื้อ

6. วัสดุเนื้อผ้า

ในประเทศที่เป็นเมืองร้อนแบบเราอาจจะไม่ต้องกังวลว่าต้องเลือกวัสดุและเนื้อผ้าแบบที่สามารถสร้างความอบอุ่นให้ลูกน้อยด้วยก็ได้ แต่ให้โฟกัสการเลือกผ้าแบบที่กันน้ำและสามารถซักและทำความสะอาดได้ง่ายเป็นสำคัญ ดังนั้นอย่าลืมเช็คว่าการทำความสะอาดเป้หรือผ้าอุ้มนั้นมีคำแนะนำว่าอย่างไรในคู่มือบ้าง

7. การทำความสะอาด

เพราะทารกก็คือทารก บางครั้งอาจมีน้ำลายหกเลอะบ้าง นมหกเลอะ หรือมีเศษอาหารเลอะ เพราะฉะนั้นถ้าเลือกเป้อุ้มเด็กที่ทำความสะอาดง่าย ก็จะย่นระยะเวลาได้และคุณแม่ก็ไม่ต้องเหนื่อยมากอีกด้วย

8. การเลือกยี่ห้อของเป้อุ้มเด็ก

จบกันไปแล้วกับข้อพิจารณาที่ควรคำนึงถึงเวลาเลือกซื้อเป้อุ้มเด็ก ทีนี้สรุป แบรนด์ไหนดีหล่ะ ? คำตอบก็คือแบรนด์ไหนหรือโมเดลก็ได้ที่เหมาะสมกับความต้องการ และได้มาตรฐานตามที่กล่าวมา เพราะนั่นหมายถึงลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่จะได้นั่งเป้ที่มีวัสดุที่ดี อยู่ในท่วงท่าที่เหมาะสมกับวัยของลูกน้อย

การใช้เป้อุ้มเด็กจึงนับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาไม่แพง แต่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่คุณพ่อคุณแม่ในการเดินทางไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะเจ้าตัวเล็กที่จะได้สนุกสนานเพลิดเพลินกับโลกกว้างที่เขากำลังจะพบเห็นและเรียนรู้มากขึ้นนั่นเอง คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่ได้เลือกซื้อเป้อุ้มเด็ก แต่กำลังพิจารณาอยู่ มาลองอ่านบทความของเราเพื่อทำความรู้จักเคล็ดลับในการเลือกเป้อุ้มเด็ก และในการเลือกเป้อุ้มเด็กนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาขนาดตัว และวัยของลูกน้อย รวมทั้งเลือกซื้อให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน และกิจวัตรประจำวันของคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้ดูแลเองด้วย และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมเลือกซื้อเป้อุ้มเด็กที่มีคุณภาพ สุดท้ายขอฝากถึงพ่อแม่ที่กำลังหาเป้อุ้มเด็ก ควรเลือกเป้อุ้มเด็กและท่าอุ้มเด็กให้เหมาะกับช่วงวัยของลูกน้อยด้วย

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ mummily.com