หมอนเด็ก

ปัญหาที่สร้างความกังวลใจให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่อยู่ไม่น้อย นั่นก็คือภาวะศีรษะแบนหรือเบี้ยวที่มักจะเกิดขึ้นกับทารก ซึ่งสาเหตุเกิดจากการจัดท่านอนหงายนานเกินไปหรือนอนบนหมอนที่ไม่รองรับทรงศีรษะได้เหมาะสม จนทำให้ศีรษะถูกทับจนแบนราบไปตามหมอน ปัญหาเหล่านี้ทำให้ตัวช่วยหมอนเด็ก อย่าง "หมอนหัวทุย" หรือ หมอนหลุมหัวทุย หมอนสำหรับเด็กทารกเพราะมีโครงสร้างที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับศีรษะเด็กให้ทุยสวย และช่วยให้เด็กนอนหลับสบายมากขึ้น ช่วยรองรับศีรษะและต้นคอ เช่นเดียวกับหมอนหัวทุยของเด็กที่ใช้เพื่อรองรับศีรษะ แต่จะมีความแตกต่างออกไปตรงที่มีรูตรงกลาง จนหลาย ๆ คนนิยมเรียกว่า "หมอนหลุม" หรือ "หมอนโดนัท"

วิธีการเลือกหมอนเด็กทารก

  1. หมอนหลุม สำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องศีรษะของลูกน้อย

ถ้าคุณแม่มีความกังวลว่าศีรษะของลูกน้อย จะแบนราบ ไม่ทุยสวย หมอนทรงหลุมหรือหมอนทรงโดนัทตอบโจทย์มาก ๆ เพราะหมอนหลุม จะมีลักษณะเป็นช่องวางตรงกลางหมอน เพื่อที่จะรองรับศีรษะทารกขณะนอนหงาย และช่วยในเรื่องแรงกดทับของศีรษะได้ดี

  1. หมอนเอียง สำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องการแหวะนมของลูก

หมอนกันแหวะสำหรับคุณแม่ที่กังวลว่าลูกน้อยจะแหวะนมหลังกินนมอิ่มแล้ว ขอแนะนำหมอนเอียง โดยหมอนเอียงจะทำหน้าที่ยกส่วนบนของทารกขึ้นเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้ทารกแหวะนมออกมานั่นเอง นอกจากนี้ ยังช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและทำให้หายใจได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย

  1. วัสดุที่เหมาะสำหรับหมอนเด็กทารก

วัสดุที่ใช้ในการทำหมอนเด็กทารกมีหลายชนิด ซึ่งจะส่งผลต่อความแข็ง ความนิ่ม และการระบายอากาศ หากคุณแม่เลือกหมอนที่อ่อนนุ่มเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อตัวเด็กได้ เพราะเด็กอาจกลับตัวพลิกคว่ำจนทำให้หายใจไม่ออก

  1. เลือกหมอนที่ทำความสะอาดง่ายและแห้งไว

หมอนสำหรับเด็กทารกเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงสุขอนามัยเป็นสำคัญ เพราะต้องใช้หมอนหนุนเด็กนอนทุกวัน และหมอนก็จะต้องดูดซับเหงื่อในทุกวันด้วย ดังนั้นจึงขอแนะนำให้เลือกหมอนที่มีปลอกเพื่อให้ง่ายต่อการถอดซักทำความสะอาด

แต่ถ้าจะให้ดีขึ้นไปอีก หมอนทารกที่คุณแม่เลือกควรทำความสะอาดได้ทั้งปลอกหมอนและตัวหมอน เพราะนอกจากต้องเจอกับเหงื่อของลูกน้อยแล้ว อาจจะมีคราบสกปรกอื่น ๆ เช่น น้ำลาย น้ำนม หรือคราบเปื้อนจากการสำรอกนม ซึ่งอาจจะต้องมีการทำความสะอาดบ่อย ๆ และควรอย่างยิ่งที่จะเลือกเนื้อผ้าชนิดที่แห้งได้ง่าย

คุณพ่อคุณแม่คงเห็นแล้วใช่ไหม ว่าหมอนสำหรับเด็กมีความสำคัญต่อคุณภาพการนอนหลับมากแค่ไหน หลังจากซื้อหมอนที่เหมาะสมให้กับลูก ๆ แล้ว ก็อย่าลืมสังเกตพฤติกรรมการนอนของเด็ก ๆ ด้วยนะคะ เพราะถึงแม้ว่าจะมีเครื่องนอนที่ดี แต่อาจมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้เด็ก ๆ นอนไม่หลับ เช่น อาหาร, พฤติกรรมก่อนเข้านอน, เสียง, กลิ่น และแสงในห้องที่ไม่เหมาะสม ก็อาจทำให้ลูกน้อยนอนหลับไม่สนิทได้ และเมื่อลูกน้อยตื่นขึ้นมาพร้อมเสียงร้องไห้หรืองอแง ก็จะส่งผลเสียกับคุณพ่อคุณแม่ด้วย เนื่องจากการนอนไม่พอ หรือเกิดเป็นภาวะความเครียดได้เช่นกัน